สำหรับบทความนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ 3 สูตรเดินเงินบาคาร่าที่มีความน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับนักพนันผู้มีเงินทุนอยู่ในปริมาณค่อนข้างเยอะและพร้อมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างมากพอสมควร ซึ่ง 3 สูตรที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือ “สูตร Martingale” , “สูตร Super Martingale” และ “สูตร dAlembert”
โดยก่อนที่เราจะไปดูว่าทั้ง 3 สูตรนั้นมีความใกล้เคียงและแตกต่างกันอย่างไร ก่อนอื่นเราลองไปทำความรู้จักแต่ละสูตรกันพอสังเขปก่อนดีกว่า สูตร Martingale เริ่มจากสูตรที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว กับสูตร Martingale สูตรที่เราสามารถเข้าใจได้ด้วยประโยคที่ว่า “ทบเงินเพิ่มอีก 2 เท่าทุกครั้งที่เล่นแพ้” ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่พอนำมาใช้จริงแล้ว หากเพื่อนๆ คนไหนไม่มีความพร้อมมากพอก็อาจจะต้องสูญทรัพย์มหาศาลไปได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะนะ สำหรับกฎของการใช้สูตรเดินเงิน Martingale นั้นก็อธิบายได้ด้วย 2 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.เริ่มแทงตาแรกจาก 1 หน่วย หากชนะก็ให้แทง 1 หน่วยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้ 2.ถ้าแพ้ ให้แทงทบจากตาก่อนหน้านี้ไป 2 เท่าเสมอ จนกว่าจะชนะจึงค่อยกลับไปเริ่มที่ 1 หน่วยอีกครั้ง ยกตัวอย่าง หากแทงแพ้ติดกัน 10 ตา ลักษณะตัวเลขจะเป็นในลักษณะนี้: 1,2,4,8,16,32,64,128,256,512 และหากตาต่อไปชนะเราก็จะได้เงินทุนทั้งหมดกลับมาพร้อมด้วยกำไรอีก 1 หน่วย หลังจากนั้นก็ให้เราเริ่มเล่นที่ 1 หน่วยไปเรื่อยๆ อีกครั้งจนกว่าจะแพ้ สูตร Super Martingale สูตรเดินเงิน Super Martingale จะเปรียบเสมือนขั้นกว่าของสูตร Martingale แบบธรรมดา เพิ่มกฎเข้ามาอีกเล็กน้อย กล่าวคือ “หากแทงแพ้จะต้องทบเงินเป็น 2 เท่าและบวกเพิ่มอีก 1 หน่วยในตาต่อไป” ซึ่งสำหรับสูตรนี้ถือว่าจำเป็นที่จะต้องใช้ความพร้อม ความเตรียมใจมากกว่าสูตร Martingale แบบธรรมดาเสียอีก กฎการใช้สูตรนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรกับสูตร Martingale แบบปกติเลย เพียงแต่ว่าในแต่ละตาที่เราแพ้นั้น นอกเหนือจากที่เราต้องทบตาต่อไปให้เป็น 2 เท่าแล้ว เรายังต้องบวกเงินทุนเข้าไปอีก 1 หน่วยในทุกๆ ครั้งอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราแพ้ติดกัน 10 ตา ตัวเลขของการวางเดิมพันก็จะออกมาในลักษณะนี้: 1,3,7,15,31,63,127,255,511,1023 ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้จะแพ้ 10 ตาติดเหมือนกัน แต่สูตรนี้ก็จะต้องลงเงินในแต่ละตามากกว่าสูตร Martingale อย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าหากเราชนะ กำไรที่ได้นั้นมันจะไม่ใช่แค่ 1 หน่วย แต่มันจะเท่ากับ “1 X จำนวนตาที่เราแพ้ติดกัน” เช่นถ้าเราแพ้ติดกันมา 8 ตาแล้วพลิกมาชนะ เราก็จะได้กำไร 1X 8 = 8 หมายความว่าสมมุติ 1 หน่วยเท่ากับ 100 บาท เราก็จะได้เงินทุนคืนมาทั้งหมด พร้อมกับกำไร 800 บาท แทนที่จะได้กำไรแค่ 100 บาทเหมือนสูตร Martingale แบบธรรมดา สูตร dAlembert สูตรนี้อ่านว่า “เด-ลอง-เบ” dAlembert เป็นสูตรทางคณิตศาสตร์ที่นำมาใช้เข้ากับบาคาร่า ด้วยความเข้าใจที่ว่า “เพิ่มเงินทุกครั้งที่แทงแพ้ และลดเงินทุกครั้งที่แทงชนะ” เป็นสูตรที่อาจเห็นผลลัพธ์ได้ช้า แต่ก็พอการันตีได้ว่าคุณจะสามารถมีกำไรที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน กฎการใช้สูตรเดินเงินนี้ก็คือ ให้แทงเพิ่ม 1 หน่วยทุกครั้งที่แทงแพ้ แต่หากตาไหนชนะ ตาต่อไปก็ให้ลดจากเดิมไป 1 หน่วย ยกตัวอย่าง สมมุติว่าเราแทงแพ้ติดกัน 5 ตา แล้วชนะติดกัน 5 ตา ลักษณะของตัวเลขก็จะเป็นแบบนี้: 1,2,3,4,5,6,5,4,3,2 โดยเราจะเห็นว่าการลดเงินในตาที่แทงชนะนั้นจะทำให้เราได้กำไรที่น้อยลง แต่นั่นก็เท่ากับว่าตอนที่เราเสียเราก็จะเสียน้อยลงเช่นเดียวกัน ทำให้มันเป็นสูตรที่มีความคงที่ในเรื่องของกำไรและเงินทุนนั่นเอง
ความเหมือนของทั้ง 3 สูตรนี้
เราจะเห็นว่าทั้ง 3 สูตรนั้นจะอยู่ในลักษณะของการ “เพิ่มเงินทุกครั้งที่แทงแพ้” เพื่อเป็นเหมือนกับการรอจังหวะที่จะเอาผลกำไรคืนกลับมา พยายามไม่ให้ต้องขาดทุนมากจนเกินไปหรือไม่ขาดทุนเลย กล่าวคือทั้ง 3 สูตรนั้นแทบจะการันตีเพื่อนๆ ได้เลยว่าจะต้องได้รับผลกำไรจากการเล่นอย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าเพื่อนๆ จะแพ้ติดๆ กันหลายๆ ตามากจริงๆ และเตรียมเงินทุนมาไม่พอเล่นต่อ เพราะอย่างนั้นทั้ง 3 สูตรที่กล่าวมาข้างต้นจึงมีระดับความเสี่ยงที่ถือว่าใกล้เคียงกันเอามากๆ แล้วสูตรไหนจะเหมาะกับเรา? ขอเริ่มจากสูตร dAlembert ก่อนเพราะมันอาจมีวิธีใช้ที่แตกต่างจากอีก 2 สูตรอย่างเห็นได้ชัด และมันเป็นสูตรที่ทำให้เราไม่ต้องใช้เงินทุนที่สูงมากนักก็สามารถเล่นซ้ำหลายตาได้ แต่อย่างที่บอกไปว่าสูตรนี้จำเป็นต้องใช้ความใจเย็นสูงมากเพราะมันใช้เวลาในการคืนผลกำไรก้อนใหญ่ที่ค่อนข้างช้า หากใครเป็นคนที่พอมีเวลา ไม่รีบร้อน แต่ต้องการเงินทุนที่มั่นคงมีมาให้เรื่อยๆ สูตรนี้ก็อาจถือว่าตอบโจทย์ ต่อด้วยสูตร Martingale แบบธรรมดา แม้ความเสี่ยงอาจไม่ต่างกัน แต่สูตรนี้จำเป็นต้องเตรียมเงินทุนเยอะกว่าสูตร dAlembert สักเล็กน้อยหากใครต้องการเล่นนานๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในแต่ละครั้งที่เราแทงแพ้มันจะต้องทบเงินทุนเพิ่มจากเดิมถึง 2 เท่า ทำให้ยอดเงินของเราอาจจะบานปลายไปมากหากแพ้ติดๆ กัน ทว่าถ้าเพื่อนๆ มีเงินทุนที่มากพอมันก็การันตีได้ว่าพลิกกลับมาชนะเมื่อไหร่ กำไรก็จะเข้ามาเมื่อนั้นในทันที อาจไม่ต้องรอนานเท่ากับสูตร dAlembert และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สูตร Super Martingale ก็ถือว่าเป็นสูตรที่น่าจะต้องเตรียมเงินทุนเอาไว้เยอะที่สุดเมื่อเทียบกับสองสูตรก่อนหน้านี้ เพราะนอกจากเราจะต้องทบ 2 เท่าทุกครั้งที่แพ้แล้ว เรายังต้องบวกเพิ่มไปอีก 1 หน่วยเรื่อยๆ ด้วย แต่ถามว่าพอพลิกกลับมาชนะได้ กำไรที่เข้ามาให้เราเห็นก็อาจทำให้เพื่อนๆ รู้สึกปิติยินดีมากกว่าสองสูตรก่อนหน้านี้นั่นแหละนะ มมันจึงถือว่าเป็นสูตรที่หากำไรได้ไว ถ้าหากมีเงินทุนที่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม จะเลือกใช้สูตรไหนอันนี้ก็อาจต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน และแนะนำว่าหากมีเทคนิคการอ่านไพ่ต่างๆ มาประกอบด้วยมันก็จะช่วยได้มากเลย Comments are closed.
|